มนุษย์แม่ ไม่ใช่ยอดมนุษย์
จำวันที่เรายังไม่ได้เป็นแม่ได้มั้ยคะ ก่อนที่เราจะเป็นแม่ เราเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดาๆ คนนึง แข็งแรงพอประมาณ ไม่ถึกนัก แต่พอเราเป็นแม่ ไม่ว่าจะด้วยความรักลูกสุดหัวใจ หรือด้วยความรู้สึกต้องรับผิดชอบชีวิตเด็กคนนึงก็แล้วแต่ มันทำให้เราฝีนตัวเอง จากผู้หญิงธรรมดา มายืนอยู่ในจุดที่ใกล้เคียงคำว่ายอดมนุษย์ เราอดนอนได้เป็นปีๆ เข้าห้องน้ำด้วยความเร็วแสง อุ้มลูกหนักสิบกว่ากิโลได้ด้วยแขนข้างเดียว มืออีกข้างของเราจับขาลูกเราที่พยาบาล 3 คนเอาไม่อยู่ ให้หมอฉีดวัคซีนให้ได้ นี่ไม่นับสารพัดความรู้สารพัดเทคนิคที่เราเอามาประยุกต์ใช้กับลูกนะคะ
มันก็น่าแปลก ที่พอวันที่เราเป็นแม่แล้ว ความสุขของทุกคนในบ้านมาก่อนเราเสมอ เราดูแลปรนนิบัติทุกคนไม่ขาดตกบกพร่อง ตัวเราน่ะ เก็บไว้อันดับสุดท้าย เราจะเป็นอย่างไรก็ได้ แต่ลูกๆ และสามี (รวมไปถึงพ่อแม่เรา พ่อแม่สามีด้วย ในกรณีครอบครัวใหญ่) เราจะดูแลให้ดีที่สุด
... แต่คนเรา ไม่ใช่เครื่องจักร ...
ไม่ว่าใจเราจะแกร่งขนาดไหน ร่างกายเราก็ยังเป็นมนุษย์ธรรมดา เป็นร่างกายของผู้หญิงคนเดิม คนที่แสนจะบอบบาง ณ เมื่อวันที่ยังไม่มีลูก เมื่อเราเหนื่อยมากๆ เข้า ไม่ได้พัก ไม่ได้ดูแลตัวเราเอง เราก็สะสมความเครียดไว้ จนวันนึง มันก็ระเบิดออกมา สุดท้ายแล้ว ไม่มีใครได้อะไรเลย เราเหนื่อย เราเครียด ลูกเรามารองรับอารมณ์ สามีเราซวยไปด้วย ไม่มีใครเลยที่มีความสุข
หันมาดูแลตัวเองบ้าง พักบ้าง การดูแลตัวเราเอง ไม่ได้แปลว่าเราเห็นแก่ตัวนะคะ ในฐานะที่เราเองก็เป็นสมาชิกคนนึงในครอบครัว เราเองก็มีสิทธิ์ที่จะได้พัก เราเองก็มีสิทธิ์ที่จะมีความสุข
พอเราได้ชาร์จแบต สิ่งที่เราได้กลับมาคือ พลังงานและความสุข เราหายเหนื่อย เราก็ไม่เครียด เราก็ดูแลทุกคนได้ดีขึ้น ร่างกายเราก็ไม่พัง อยู่กับทุกคนได้นานขึ้น
ถ้าตอนนี้เรายังไม่ได้พัก และกำลังจะฟิวส์ขาด ขอว่าอย่าขาดแล้วลงกับลูก เราทำ time out กับลูกได้ ขอให้เรากล้าทำ time out ตัวเอง แตะมือกับตัวช่วย หรือบอกลูกว่าตอนนี้แม่โกรธมาก จัดการให้ลูกอยู่ในที่ปลอดภัย แล้วหลบออกไป สติกลับมาเมื่อไหร่ ค่อยกลับมาดูแลลูกต่อนะคะ
มันก็น่าแปลก ที่พอวันที่เราเป็นแม่แล้ว ความสุขของทุกคนในบ้านมาก่อนเราเสมอ เราดูแลปรนนิบัติทุกคนไม่ขาดตกบกพร่อง ตัวเราน่ะ เก็บไว้อันดับสุดท้าย เราจะเป็นอย่างไรก็ได้ แต่ลูกๆ และสามี (รวมไปถึงพ่อแม่เรา พ่อแม่สามีด้วย ในกรณีครอบครัวใหญ่) เราจะดูแลให้ดีที่สุด
... แต่คนเรา ไม่ใช่เครื่องจักร ...
ไม่ว่าใจเราจะแกร่งขนาดไหน ร่างกายเราก็ยังเป็นมนุษย์ธรรมดา เป็นร่างกายของผู้หญิงคนเดิม คนที่แสนจะบอบบาง ณ เมื่อวันที่ยังไม่มีลูก เมื่อเราเหนื่อยมากๆ เข้า ไม่ได้พัก ไม่ได้ดูแลตัวเราเอง เราก็สะสมความเครียดไว้ จนวันนึง มันก็ระเบิดออกมา สุดท้ายแล้ว ไม่มีใครได้อะไรเลย เราเหนื่อย เราเครียด ลูกเรามารองรับอารมณ์ สามีเราซวยไปด้วย ไม่มีใครเลยที่มีความสุข
หันมาดูแลตัวเองบ้าง พักบ้าง การดูแลตัวเราเอง ไม่ได้แปลว่าเราเห็นแก่ตัวนะคะ ในฐานะที่เราเองก็เป็นสมาชิกคนนึงในครอบครัว เราเองก็มีสิทธิ์ที่จะได้พัก เราเองก็มีสิทธิ์ที่จะมีความสุข
พอเราได้ชาร์จแบต สิ่งที่เราได้กลับมาคือ พลังงานและความสุข เราหายเหนื่อย เราก็ไม่เครียด เราก็ดูแลทุกคนได้ดีขึ้น ร่างกายเราก็ไม่พัง อยู่กับทุกคนได้นานขึ้น
ถ้าตอนนี้เรายังไม่ได้พัก และกำลังจะฟิวส์ขาด ขอว่าอย่าขาดแล้วลงกับลูก เราทำ time out กับลูกได้ ขอให้เรากล้าทำ time out ตัวเอง แตะมือกับตัวช่วย หรือบอกลูกว่าตอนนี้แม่โกรธมาก จัดการให้ลูกอยู่ในที่ปลอดภัย แล้วหลบออกไป สติกลับมาเมื่อไหร่ ค่อยกลับมาดูแลลูกต่อนะคะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น