รักนะ แต่เอือมมาก ทำไงดี
เคยมั้ยคะ เวลาอยู่กับลูกมากๆ แล้วรู้สึกจะอ้วก ไม่ต้องรู้สึกผิดไปค่ะ รินก็เป็น 555
รินยอมรับว่าบางครั้งลูกก็มีพฤติกรรมที่น่าเหนื่อยหน่ายจริงๆ ค่ะ ยิ่งลูกรินอ่อนไหวมากด้วย เดี๋ยวร้องไห้ เดี๋ยวคร่ำครวญ เดี๋ยวดื้อ เดี๋ยวเอาแต่ใจ แล้วเวลาที่เอือมมากๆ เราก็จะรู้สึกชอบลูกไม่ลง เหนื่อย เบื่อ ยังรักนะคะ รักที่สุด แต่อยู่ด้วยไม่ไหวแล้ว แกล้งตายดีกว่า คร่อก!
การที่เราเป็นพ่อแม่เนี่ย มันทำให้เรามีความคาดหวังกับตัวเองค่ะ เราคาดหวังว่าเราจะต้องอบรมเลี้ยงดูให้เค้าเติบโตมาเป็นคนดี มีความสามารถ ดูแลตัวเองได้ และสิ่งนี้เองที่ทำให้เราพยายาม "จับผิด" มากกว่า "จับถูก" เหมือนเวลาเราปลูกดอกไม้ เรามักจะเห็นหญ้ารกเร็วกว่าเห็นดอกไม้สวย เพราะเรามองว่าหญ้ารกทำให้สวนเราไม่สวย แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าเรามองไปทีไรก็เห็นแต่หญ้ารกๆ เราก็คงไม่มีความสุขกับสวนของเรา
รินเชื่อว่า เด็กๆ ทุกคนก็มีข้อดี ในทุกๆ การกระทำที่น่าเบื่อหน่ายของลูกก็มีสิ่งดีๆ แฝงไว้ ถ้าเราหามันเจอ และมุ่งความสนใจไปที่มัน เราก็จะมีความสุขขึ้นและชอบลูกของเรามากขึ้น
ถ้าใครกำลังตกอยู่ในสภาพนึกไม่ออกเลยว่าลูกเรามีอะไรดีบ้าง ลองเล่นเกมบอกรักกันสิคะ ผลัดกันพูด พ่อ แม่ ลูก หรือแค่เรากับลูกก็ได้ แม่รักหนูเพราะ ... พ่อรักหนูเพราะ ... ผลัดกันบอกไปเรื่อยๆ แข่งกันว่าใครจะหาได้มากกว่ากัน สมองเราจะพยายามนึกถึงสิ่งดีๆ ออกมา ยิ่งบอกเยอะ คุณจะเริ่มหมดมุก ทีนี้เรื่องอะไรก็แล้วแต่ แม้เพียงเล็กๆ น้อยๆ คุณก็จะเริ่มมองเห็นค่ะ
อีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ คือ จดบันทึกความดีของลูกค่ะ เมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกทำดี ช่วยเหลือคนอื่น ช่วยงานบ้าน แสดงน้ำใจ ช่วยปลอบน้อง แบ่งดินสอให้พี่ ช่วยแม่ล้างจาน ให้เราจดลงไปทุกวัน (ลง post-it แปะไว้หน้าตู้เย็นเลยก็ได้ค่ะ ยิ่งจด 1 แผ่นต่อ 1 เรื่องได้ยิ่งดี เด็กที่ยังอ่านไม่ออกก็จะเห็นได้จากจำนวนของกระดาษที่แปะ) พอครบอาทิตย์แล้วก็นำมาอ่านด้วยกัน ลูกก็จะภูมิใจที่แม่มองเห็นว่าเขาเป็นคนดี และพยายามทำดีต่อไป เราเองก็จะได้ระลึกถึงข้อดีของลูกไปด้วย
การคิดบวกก็ช่วยได้มากค่ะ อย่างที่บอกไปว่า ในสวนของเรามันก็มีทั้งดอกไม้ ทั้งวัชพืช ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกมองอะไร
ลูกร้องไห้ไปพูดไป น่ารำคาญ => อ้อ ลูกเข้าใจแล้วว่าลูกต้องพูดเราถึงจะเข้าใจ แต่อารมณ์มันดันทะลักออกมาก่อน
ลูกดื้อ พูดอะไรไปก็ไม่เชื่อ => อ้อ ลูกรู้ความต้องการของตัวเองชัดเจน และยืนหยัดในความต้องการของตัวเอง
ลูกไม่อยากไปเรียน => ลูกอยู่กับเรา ลูกมีความสุขมาก ได้เล่นสนุก มากกว่าไปเรียน เป็นธรรมดาที่จะไม่อยากไป
ลูกเรียกร้องความสนใจ => ลูกรักเรามาก และต้องการให้เราแสดงออกว่ารักเขาเหมือนกัน
เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญค่ะ เพราะนอกจากเราและลูกจะมีความสุขขึ้น ครอบครัวเรามีความสุขขึ้นแล้ว เราได้เรียนรู้จากตอน "คำพ่อ คำแม่ คำศักดิ์สิทธิ์" แล้วว่าเด็กจะเป็นอย่างที่เราบอกว่าเขาเป็น ถ้าเรามองเห็นแต่ข้อเสียของเขา มันก็คงจะยากที่เราจะพูดถึงเขาในแง่ดี
การคิดบวก มองบวก ไม่ได้หมายความว่า เราจะโลกสวย ปล่อยให้พฤติกรรมไม่ดีคงอยู่ต่อไปเพียงเพราะเรามองเห็นว่ามันเป็นเรื่องดี แต่มันจะทำให้เราเข้าใจลูกมากขึ้น ใจเย็นมากขึ้น และรับมือกับพฤติกรรมนั้นได้อย่างอ่อนโยนมากขึ้นค่ะ
#รักลูกให้กอด
Tag: เลี้ยงลูกเชิงบวก คิดบวก เคล็ดลับมองแง่บวก มีความสุขกับลูกดื้อ
รินยอมรับว่าบางครั้งลูกก็มีพฤติกรรมที่น่าเหนื่อยหน่ายจริงๆ ค่ะ ยิ่งลูกรินอ่อนไหวมากด้วย เดี๋ยวร้องไห้ เดี๋ยวคร่ำครวญ เดี๋ยวดื้อ เดี๋ยวเอาแต่ใจ แล้วเวลาที่เอือมมากๆ เราก็จะรู้สึกชอบลูกไม่ลง เหนื่อย เบื่อ ยังรักนะคะ รักที่สุด แต่อยู่ด้วยไม่ไหวแล้ว แกล้งตายดีกว่า คร่อก!
การที่เราเป็นพ่อแม่เนี่ย มันทำให้เรามีความคาดหวังกับตัวเองค่ะ เราคาดหวังว่าเราจะต้องอบรมเลี้ยงดูให้เค้าเติบโตมาเป็นคนดี มีความสามารถ ดูแลตัวเองได้ และสิ่งนี้เองที่ทำให้เราพยายาม "จับผิด" มากกว่า "จับถูก" เหมือนเวลาเราปลูกดอกไม้ เรามักจะเห็นหญ้ารกเร็วกว่าเห็นดอกไม้สวย เพราะเรามองว่าหญ้ารกทำให้สวนเราไม่สวย แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าเรามองไปทีไรก็เห็นแต่หญ้ารกๆ เราก็คงไม่มีความสุขกับสวนของเรา
รินเชื่อว่า เด็กๆ ทุกคนก็มีข้อดี ในทุกๆ การกระทำที่น่าเบื่อหน่ายของลูกก็มีสิ่งดีๆ แฝงไว้ ถ้าเราหามันเจอ และมุ่งความสนใจไปที่มัน เราก็จะมีความสุขขึ้นและชอบลูกของเรามากขึ้น
ถ้าใครกำลังตกอยู่ในสภาพนึกไม่ออกเลยว่าลูกเรามีอะไรดีบ้าง ลองเล่นเกมบอกรักกันสิคะ ผลัดกันพูด พ่อ แม่ ลูก หรือแค่เรากับลูกก็ได้ แม่รักหนูเพราะ ... พ่อรักหนูเพราะ ... ผลัดกันบอกไปเรื่อยๆ แข่งกันว่าใครจะหาได้มากกว่ากัน สมองเราจะพยายามนึกถึงสิ่งดีๆ ออกมา ยิ่งบอกเยอะ คุณจะเริ่มหมดมุก ทีนี้เรื่องอะไรก็แล้วแต่ แม้เพียงเล็กๆ น้อยๆ คุณก็จะเริ่มมองเห็นค่ะ
อีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ คือ จดบันทึกความดีของลูกค่ะ เมื่อไหร่ก็ตามที่ลูกทำดี ช่วยเหลือคนอื่น ช่วยงานบ้าน แสดงน้ำใจ ช่วยปลอบน้อง แบ่งดินสอให้พี่ ช่วยแม่ล้างจาน ให้เราจดลงไปทุกวัน (ลง post-it แปะไว้หน้าตู้เย็นเลยก็ได้ค่ะ ยิ่งจด 1 แผ่นต่อ 1 เรื่องได้ยิ่งดี เด็กที่ยังอ่านไม่ออกก็จะเห็นได้จากจำนวนของกระดาษที่แปะ) พอครบอาทิตย์แล้วก็นำมาอ่านด้วยกัน ลูกก็จะภูมิใจที่แม่มองเห็นว่าเขาเป็นคนดี และพยายามทำดีต่อไป เราเองก็จะได้ระลึกถึงข้อดีของลูกไปด้วย
การคิดบวกก็ช่วยได้มากค่ะ อย่างที่บอกไปว่า ในสวนของเรามันก็มีทั้งดอกไม้ ทั้งวัชพืช ขึ้นอยู่กับว่าเราเลือกมองอะไร
ลูกร้องไห้ไปพูดไป น่ารำคาญ => อ้อ ลูกเข้าใจแล้วว่าลูกต้องพูดเราถึงจะเข้าใจ แต่อารมณ์มันดันทะลักออกมาก่อน
ลูกดื้อ พูดอะไรไปก็ไม่เชื่อ => อ้อ ลูกรู้ความต้องการของตัวเองชัดเจน และยืนหยัดในความต้องการของตัวเอง
ลูกไม่อยากไปเรียน => ลูกอยู่กับเรา ลูกมีความสุขมาก ได้เล่นสนุก มากกว่าไปเรียน เป็นธรรมดาที่จะไม่อยากไป
ลูกเรียกร้องความสนใจ => ลูกรักเรามาก และต้องการให้เราแสดงออกว่ารักเขาเหมือนกัน
เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญค่ะ เพราะนอกจากเราและลูกจะมีความสุขขึ้น ครอบครัวเรามีความสุขขึ้นแล้ว เราได้เรียนรู้จากตอน "คำพ่อ คำแม่ คำศักดิ์สิทธิ์" แล้วว่าเด็กจะเป็นอย่างที่เราบอกว่าเขาเป็น ถ้าเรามองเห็นแต่ข้อเสียของเขา มันก็คงจะยากที่เราจะพูดถึงเขาในแง่ดี
การคิดบวก มองบวก ไม่ได้หมายความว่า เราจะโลกสวย ปล่อยให้พฤติกรรมไม่ดีคงอยู่ต่อไปเพียงเพราะเรามองเห็นว่ามันเป็นเรื่องดี แต่มันจะทำให้เราเข้าใจลูกมากขึ้น ใจเย็นมากขึ้น และรับมือกับพฤติกรรมนั้นได้อย่างอ่อนโยนมากขึ้นค่ะ
#รักลูกให้กอด
Tag: เลี้ยงลูกเชิงบวก คิดบวก เคล็ดลับมองแง่บวก มีความสุขกับลูกดื้อ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น