ทีวี..ไม่ใช่พี่เลี้ยง (Effect of TV)
หลายๆ คนคงรู้ดีกันอยู่แล้ว
ว่าเด็กต่ำกว่า 2 ขวบไม่ควรดูทีวีเลย ตามคำแนะนำของสมาคมกุมารแพทย์
เพราะเด็กจะนั่งจุ้มปุ๊กอยู่หน้าทีวี ซึ่งมีภาพแว้บไปแว้บมาตลอดเวลา
ไม่มีปฎิสัมพันธ์กับคนรอบข้าง ส่งผลเสียต่อสายตา สมาธิ และขัดขวางพัฒนาการ
แล้วบ้านที่คนแก่ติดทีวีล่ะ? เราต้องเข้าใจก่อนว่ายายไม่ได้มีหน้าที่เลี้ยงหลาน เราขอร้องให้ยายมาช่วย และทีวีมันเป็นของคู่ยุคกับเขา ส่วนตัวรินก็ให้ยายช่วยดูลูกให้ตอนลูกยังเล็กค่ะ
เราก็อธิบายให้ฟังว่าทีวีจะส่งผลต่อลูกอย่างไรเพื่อสร้างความเข้าใจให้ยายก่อน
แต่ยายอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีทีวีค่ะ
รินกับสามีคิดกันว่ายายมาช่วยดูให้ดีกว่าส่งเนิสทั้งเรื่องสุขภาพและความปลอดภัย
เราก็เลยตกลงกันว่า จะยอมให้ยายเปิดทีวีกันนะ
ในช่วงหลานยังคลานไม่ได้ก็จะขอร้องให้หันหลานไปทางอื่น สายตาจะได้ไม่เสีย
และรินใช้วิธีวางทีวีไว้แค่ในห้องนอนยาย ก็จะสามารถจำกัดเวลาดูไปได้พอสมควร
เพราะยายไม่สะดวกในการเลี้ยงหลานในห้อง พอหลานคลานได้ หรือเดินเตาะแตะ
ยายก็ต้องวิ่งตามหลานทั้งวันแล้วค่ะ
วัยแบเบาะและเตาะแตะไม่ใช่ปัญหาใหญ่
อดทนไว้เดี๋ยวมันก็ผ่านไป พอถึงวัยที่ดูทีวีได้นี่แหละ ที่รินคิดว่ามีปัญหาในหลายๆ
บ้าน ด้วยความไม่รู้ของเรา เลยอยากจะเล่าให้ฟังซักหน่อยค่ะ
การมีทีวีอยู่กับลูก
ก็เหมือนมีผู้ใหญ่คนนึงอยู่ในบ้าน
พฤติกรรมของผู้ใหญ่คนนั้นก็แล้วแต่รายการทีวีหรือโฆษณาที่เราเปิดให้ลูกเราดูเลยค่ะ
มาดูกันว่าทีวีให้อะไรกับเด็กๆ
บ้าง (อ้างอิงจากหนังสือชื่อ ลูกสาว เลี้ยงอย่างไรให้ดี ของสำนักพิมพ์ รักลูกBooks)
1) รูปร่างหน้าตา คือ
สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเรา
2) รูปร่าง น้ำหนัก สีผิว
เส้นผม กระทั่งกลิ่นกาย ไม่เคยดีพอ
3)
เพศสัมพันธ์เป็นสามารถแลกเปลี่ยนกับ ความรัก ความสนใจ อำนาจต่อรอง หรือ เงิน
4)
เพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่รู้จัก เป็นเรื่องธรรมดา
5) โลกนี้น่ากลัว
เปล่าเปลี่ยว อันตราย และแข่งขันชิงดี
6) คำตอบของทุกปัญหา คือ
การจับจ่ายซื้อหา
หลายคนคิดว่า เฮ้ย เราดูรายการเรียลลิตี้ ไม่รุนแรง ไม่เป็นอะไรหรอก ... รายการแบบนี้ ใครไม่ดีไม่เด่นพอ ไม่สวยพอ ถูกคัดออกนะคะ ไม่รุนแรงก็จริง แต่มันก็แฝงความนัยบางอย่างให้ลูกเรารับเป็นทัศนคติติดตัวไป เราคงไม่อยากให้ลูกกังวลอยู่แต่กับรูปร่างหน้าตาของตัวเอง กับความรู้สึกแต่ว่าเราอาจจะไม่ดีพอใช่มั้ยคะ
ดังนั้นรินคิดว่าเป็นเรื่องที่สำคัญมาก
ที่เราจะ
1)
คัดกรองรายการที่ลูกจะดูให้ดี
2) ไม่มีทีวีในห้องนอนลูก
เพื่อที่ลูกจะได้ดูทีวีกับเรา
เราจะได้มีโอกาสอธิบายเมื่อมีสิ่งที่ไม่เหมาะสมหรือชวนเข้าใจผิดในทีวี
สำหรับลูกสาววัย
3 ขวบกว่าของริน ทีวีที่จะเปิดให้ดูจะเป็นพวกสารคดีสัตว์ การทดลองวิทยาศาสตร์
หรือรายการสำหรับเด็กเท่านั้นค่ะ และจะกดปิดเสียงตอนโฆษณา
และพวกซีดีการ์ตูนสำหรับเด็กอย่าง Barney, Mickey Mouse Club House,
Dora the Explorer (ถ้าไม่เคยดู ควรเปิดดูก่อนเปิดให้ลูกนะคะ
บางทีดูหน้าปกเหมือนการ์ตูนเด็ก แต่ไล่ตีกันหรือพูดคำด่าคำตลอดเรื่องก็มีค่ะ)
คงไม่ดีแน่ถ้าเราพยายามเป็นต้นแบบที่ดีให้กับลูกกันแทบแย่ แต่ดันมาตกม้าตายตรงรายการทีวีที่เปิดให้ลูกดู คัดกรองกันสักหน่อย แล้วเราจะเหนื่อยใจกันน้อยลงค่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น